อธิบายศัพท์กาพย์พระไชยสุริยา
กะลาง= นกชนิดหนึ่ง ขนาดนกเอี้ยง กะลิง=นกชนิดหนึ่งปากงุ้มเป็นขอ หัวสีเทาตัวสีเขียว ปากแดงหางยาว กามา = ความใคร่ กาลกิณี= เสนียดจัญไร กูณฑ์= ไฟ ขอสมา= ขออภัย เกา =ครูดไป ขันธ= ส่วนหนึ่ง ๆ ของรูปกับนามที่แยกออกเป็น ๕ กอง คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ รวมเรียก ขันธ์ ๕ ขื่อคา = เครื่องจองจำนักโทษทำด้วยไม้เจาะประกบคอและมือ เขนย =หมอน เป็นคำราชาศัพท์ที่มาจากภาษาเขมร เข้าปลาแลสาลี =ข้าวปลาและข้าวสาลี คดี = เรื่อง ครุฑา = ครุฑพาหนะของพระนารายณ์ คอโค = คอโคอศุภราชพาหนะของพระอิศวร ซึ่งอยุ่บนวิมานบนเขาไกรลาส ค้อนทอง= ชื่อนกชนิดหนึ่ง ร้องดังกุ๊ก ๆ ค่าง = ลิงชนิดหนึ่ง คันทรง = ไม้พุ่มดอกเหลือง คีรี= ภูเขา จอมอารย์ =อารย แปลว่า เจริญ ในที่นี้ จอมอารย์ หมายถึง พระฤาษี ผู้ทรงศีล จำเรียง =ขับกล่อม ร้องเพลง เจ้าสุภา = ตุลาการ ฉ้อ = ขี้โกง เฉโก= ฉลาดแกมโกง ไม่ตรง ช้องนาง=ไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ดอกใหญ่สีม่วงออกน้ำเงินเข้ม หลอดดอกสีเหลืองเข้ม ช่อใบ= ชักรอกไป ชี นักบวช =(ทั้งชายและหญิง) ใช้ใบ =กางใบแล่นเรือ ตรีชา= ตำหนิ ติเตียน ตะลิงปลิง = ชื่อต้นไม้ มีรสเปรี้ยว ถือน้ำ =คำเต็มคือ ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา หมายถึง ดื่มน้ำสาบานว่า จะจงรักภักดีต่อ พระมหากษัตริย์ เถื่อน = ป่า เถ้าแก่= ตำแหน่งข้าราชการสตรีที่สังกัดอยู่ในพระราชฐานชั้นใน ในพระราชสำนักในสมัยก่อน ท่อเสียง =ประสานเสียง เทวาสมบัติ= สมบัติในสวรรค์ ธรณี= เมือง แผ่นดิน นัยนา = ดวงตา นกหก =นกต่าง ๆ บ่น= ท่องมักใช้คู่กันเป็นคำซ้อนว่า " ท่องบ่น " เช่น ท่องบ่นถาถา อาคม บรรจ์ฐรณ์ =ปัจจุบันเขียน บรรจถรณ์ หมายถึง ที่นอน บา=ครู อาจารย์ (ดังในคำ ครูบาอาจารย์) บาฬี =ปัจจุบันเขียนบาลี หมายถึง พุทธพจน์ คือถ้อยคำของ พระพุทธเจ้า ปฐพี= พื้นแผ่นดิน ประยงค์= ไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ประเวณี= การะพฤติผิดเมียผู้อื่น ประสกสีกา = ชายญิงที่นับถือพุทธศาสนา ปริง= มะปริง ปัตติ= ส่วนบุญ พระดาบส= ฤๅษี พระยาลอ= นกชนิดหนึ่ง ตัวสีเทา ตะโพกสีแดง ขนหางยาว บางครั้งเรียกไก่ฟ้าพญาลอ พระยาสัมพาที= พยานกในรามเกียรติ์พี่ของนกสดายุผู้บอกทางไปกรุงลงกาให้หนุมาน พระสุรีย์= ดวงอาทิตย์ พระแสง= อาวุธของมีคม พลวง= ชื่อธาตุชนิดหนึ่ง พสุธา=แผ่นดิน พักตรา = ใบหน้า พิภพ = โลก ทรัพย์สมบัติ พุทธันดร= ช่วงเวลาที่ว่างจากพระพทธเจ้า หรือช่วงเวลาระหว่างการเปลี่ยนพระพุทธเจ้า พระเจ้า= พระพุทธเจ้า โพล้เพล้ = เวลาพลบค่ำ พระศรีไตรสรณ =คำเต็ม คือ พระศรีไตรสรณคมน์ หมายถึง พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันเป็นที่พึ่ง พระสะธำม์ =ปัจจุบันเขียนสัทธรรม หมายถึง คำสอนของพระพุทธเจ้า ไพชยนต์=ชื่อรถและวิมานของพระอินทร์ ภาษาไสย =ความรู้ทางเวทมนตร์คาถาซึ่งได้มาจากพราหมณ์ เภตรา = เรือ มณฑล บริเวณ มรคา = ทาง มโหรี = วงดนตรีดีดสีตีเป่า มโหฬาร์ =ยิ่งใหญ่ มโหฬาร มเหสี= เมียเอก ม้าฬ่อ =ปัจจุบันเขียน ม้าล่อ หมายถึง แผ่นโลหะเจือ รูปคล้ายถาด ตี ให้มีเสียงดัง เป็นของจีนที่ใช้กัน เมธา =ปัญญาความรู้ ความฉลาดรอบคอบ ในที่นี้ หมายถึง นักปราชญ์ เมรุ= ภูเขากลางจักรวาลเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่อยุ่ของพระอินทร์ โมทนา= พลอยยินดี ยอแสง= พระอาทิตย์อ่อนแสงใกล้จะพลบค่ำ เยาวนารี= สาวนรุ่น โยโส= อวดดี รัญจวน = ป่วนใจ ราหู =ปลาฉลามหัวค้อน รกุขมูล= โคนต้นไม้ ละมั่ง= กวางขนาดเล็ก โลโภ= โลภ ไม่รู้จักพอ วาตา = วาตะ ลม วายุ พยุ = ลมที่พัดแรงมาก ศฤงฆาร =ปัจจุบันเขียน ศฤงคาร หมายถึง บริวารหญิงผู้บำเรอความรัก แต่ในที่นี้หมายถึง ทรัยพ์สมบัติ สะธุสะ= มาจาก สาธุ ดีแล้ว ชอบแล้ว สังวัจฉระ = ปี สังวาส= การอยู่ด้วยกัน การร่วมประเวณี สัตถา= ครู ผู้สอน สันดาน= สืบต่อ สุภา = ตุลาการ หงส์= นกในนิยายตระกูลสูง เหรา =สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ตัวคล้ายแมงดาทะเล กินเบื่อเมา เหล่าเมธา= นักปราชญ์ ผุ้รู้ทั้งหลาย ไหลมาแต่ในคอโค= แต่ในคอโค แปลว่า จากในคอของโค (วัว) ในที่นี้ หมายถึง น้ำจากสระอโนดาต ในป่าหิมพานต์ที่ไหลออกมาทางคอโค ที่ประจำทิศหนึ่งในสี่ทิศของสระนี้ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง ตอนป่า หิมพานต์ จะใช้ว่า " ปากวัว" ซึ่งก็หมายถึง คอโค นั้นเอง อภิญญาณ= ความรู้ยิ่ง 6 ประการ คือ อิทธิฤทธิ ทิพยโสต หูทิพย์ รู้ใจผู้อื่น ระลึกชาติได้ ตาทิพย์ ตัดกิเลส อวสาน= จบ สิ้นสุด อะโข = มากหลาย อะฌาสัย= อัชฌาสัย นิสัยดี อัปรา= ไปจาก ใช้นำหน้าคำอื่น อัปรีย์ = ระยำ เลวทราม ไม่เป็นมงคล อัสดง= อาทิตย์ตก อาญา= อำนาจ โทษ อารย์= เจริญ อีเก้ง= สัตว์ชนิดหนึ่ง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ฟาน อีโก้ง =นกชนิดหนึ่งลำตัวสีม่วงปากหนาสีแดง เอ็นดู =สงสาร |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น